ข้อมูลที่น่าสนใจ |
วิธีเล่นเกมมือถือเซิร์ฟญี่ปุ่น (และประเทศอื่นๆ ) |
รวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเล่น ตั้งแต่เรื่องการ์ด ความแตกต่างของการ์ด Region และวิธีการเล่นในแต่ละเทิร์น Action คืออะไร ระบบมานา เงื่อนไขการชนะของเกม และเทคนิคต่างๆ ในการเล่นเบื้องต้น
การ์ดและประเภทของการ์ด
การ์ดถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของเกม โดยในหนึ่งเด็คเราจะสามารถใส่การ์ดได้ทั้งหมด 40 ใบ ซึ่งการ์ดที่อยู่ในเด็คก็จะมีหน้าที่ จุดเด่น ความสามารถของการ์ดที่แตกต่างกัน
องค์ประกอบของการ์ด 1 ใบ:
Barrier | Frostbite |
Challenger | Overwhelm |
Elusive | Quick Attack |
Ephemeral | Scout |
Fearsome | Stun / Recall |
ในการเล่น LoR การ์ดทุกใบจะถูกแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ แชมป์เปี้ยน (Champion), Follower และ การ์ดเวทย์ (Spell)
Champion (แชมป์เปี้ยน)
แชมป์เปี้ยนคือยูนิตหลักที่เราจะใช้เล่นในเกม เปรียบเสมือนแม่ทัพหลักของเด็คเราเพราะเป็นการ์ดที่มีความสามารถมากกว่าการ์ดอื่นๆ โดยในหนึ่งเด็คจะสามารถใส่การ์ดแชมป์เปี้ยนได้สูงสุด 6 ใบ
จุดเด่นที่ทำให้การ์ดแชมป์เปี้ยนถูกใช้เป็นแกนหลักของเด็คก็คือการ์ดแชมป์เปี้ยนสามารถอัพเลเวลได้ ซึ่งจะทำให้การ์ดนั้นแข็งแกร่งขึ้น เช่น อาจทำให้การ์ดมีค่าพลังและค่าป้องกันที่สูงขึ้น หรือมีความสามารถเพิ่มขึ้น โดยการอัพเลเวลของการ์ด เราจะต้องทำเงื่อนไขที่เขียนกำกับอยู่ในการ์ดให้สำเร็จเสียก่อน เลเวลถึงจะอัพ อย่าง Zed ที่เลเวลอัพแล้ว ร่างแยกที่สร้างมาจะได้คีย์เวิร์ด Quick Attack เหมือนกับ Zed ตัวจริง
Follower
Follower เป็นการ์ดที่มีรูปแบบจะเหมือนกับแชมป์เปี้ยนแทบทุกอย่าง เช่น มีคีย์เวิร์ดและความสามารถเหมือนกัน แต่ Follower จะไม่สามารถเลเวลอัพได้ อย่างในรูปคือการ์ด Shadow Assassin ที่มีคีย์เวิร์ด Elusive ซึ่งทำให้หากใช้การ์ดนี้โจมตีจะไม่โดนบล็อคโดยยูนิตทั่วไป ศัตรูต้องใช้ยูนิต Elusive เหมือนกันมาบล็อคตัวนี้เท่านั้น
ส่วนความสามารถคือ เมื่อเรียกตัวนี้ลงมาในสนาม เราได้จั่วการ์ด 1 ใบ การ์ด Follower จะใช้ในการตั้งบอร์ดและใช้ความสามารถสนับสนุนแชมป์เปี้ยนในแผนการเล่นของเรา
Spell (การ์ดเวทย์)
Spell เป็นการ์ดเวทย์ที่ไม่มีค่าพลังโจมตีหรือตั้งรับเหมือนกับการ์ดแชมป์เปี้ยนและ Follower โดยเมื่อใช้การ์ดเวทย์ร่ายแล้วเราก็จะได้ความสามารถตามที่การ์ดระบุไว้ สิ่งที่แตกต่างจากการ์ดประเภทอื่นคือในการลงการ์ดเวทย์เราจะไม่ได้ใช้มานาปกติ แต่จะเป็นมานาเวทย์ หรือ Spell Mana นอกจากนี้การ์ดเวทย์แต่ละใบจะมีความเร็วในการร่ายไม่เหมือนกัน แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ
Region ของการ์ดและจุดเด่น
การ์ดในเกมนี้ทุกใบจะมี Region หรือประเทศสังกัดของตัวเอง เกมมีทั้งหมด 7 Region โดยแบ่งเป็นดังนี้
Demacia เน้นการตั้งบอร์ดและยูนิตที่มีค่าพลังสูง เก่งมากในการสู้กับยูนิตตรงๆ และการเพิ่มพลังให้กับยูนิตทั้งสนาม
Freljord เน้นการเพิ่มค่าพลัง บัพยูนิตตัวเดียวให้มีค่าพลังสูงๆ มีการ์ดเพิ่มเลือดเยอะทำให้ตายยาก และมีการ์ดที่ช่วยเร่งมานาต่อเทิร์นให้มากกว่าคู่ต่อสู้
Noxus เน้นยูนิตพลังโจมตีสูง มีความสามารถในการทำดาเมจใส่ Nexus ได้เยอะ และการ์ดเพิ่มพลังโจมตีปิดเกม
Ionia เน้นใช้การ์ดเวทย์ขัดขวางและป่วนคู่ต่อสู้ มีรูปแบบการเล่นพลิกแพลงได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวิธีการเล่น
Piltover & Zaun เน้นการเล่นคอมโบและทำลาย มีการ์ดเวทย์ที่ใช้ทำดาเมจใส่คู่ต่อสู้เยอะ และมีคอมโบเฉพาะตัว
Shadow Isles เน้นการฆ่าและเอาตัวรอด มีการ์ดที่ใช้ฮีล Nexus เยอะ มีการ์ดทำลายล้างทั้งสนาม เล่นคอมโบกับการฆ่ายูนิตตัวเอง และชุบชีวิตมาใช้งานใหม่
Bilgewater เน้นการป่วนเกมและขโมยการ์ดคู่ต่อสู้ เน้นการจั่วการ์ดและทำคอมโบเฉพาะตัว
วิธีการเล่น
รูปแบบการเล่นหลักๆ จะแบ่งเป็นรอบ โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นในแต่ละรอบมีดังนี้
ฝั่งโจมตีและป้องกันแตกต่างกันยังไง
ฝ่ายโจมตีและป้องกัน จะเล่นการ์ดได้เหมือนกันหมด แตกต่างแค่ฝ่ายโจมตี จะมีสิทธิ์สั่งโจมตีในรอบนั้น ส่วนฝ่ายป้องกันจะไม่สามารถสั่งโจมตีได้ ยกเว้นแต่ใช้การ์ดที่มีความสามารถ Rally เพื่อมอบ Attack Token ให้กับฝั่งเรา จะทำให้เราสามารถสั่งโจมตีได้แม้อยู่ในรอบป้องกัน
เมื่อฝ่ายโจมตีประกาศโจมตีแล้ว เค้าจะต้องเลือกยูนิตที่จะใช้โจมตีแล้วยืนยัน จากนั้นฝ่ายป้องกันจะเป็นคนเลือกว่า จะนำยูนิตของตนเองไปป้องกันที่ตัวไหนบ้าง หรือจะไม่ป้องกันก็ได้ เมื่อยืนยันแล้วยูนิตทั้งสองฝ่ายจะเข้าปะทะกัน
หากผู้เล่นไม่ต้องการเล่นการ์ดอะไรอีกแล้วในเทิร์นนั้น ให้กดปุ่ม Pass ด้านขวามือ เพื่อข้ามการเล่น Action นั้น หากผู้เล่นทั้งสองฝ่าย กด Pass ทั้งคู่เทิร์นก็จะจบลง แล้วก็จะสลับฝ่ายบุกฝ่ายป้องกัน แล้วเริ่มรอบใหม่
แต่ถ้าหากมีผู้เล่นคนหนึ่งไม่กดผ่าน แล้วเล่นการ์ดต่อ ผู้เล่นที่กดผ่านไปแล้วก็จะได้ตัดสินใจอีกครั้ง ว่าจะกดผ่านอีกรอบ หรือจะเล่นการ์ดต่อแทน เรียกง่ายๆว่า เราสามารถหลอกศัตรูว่าไม่มีการ์ดอะไรเล่น กดผ่านไป เพื่อล่อให้ศัตรูลงการ์ด แล้วใช้การ์ดของเราทำลายได้
ในทางกลับกันหากเราพยายามจะหลอกศัตรู แต่ศัตรูกดผ่านพร้อมกับเรา เทิร์นก็จะจบลงทันที และเราก็จะไม่ได้เล่นการ์ดใบนั้นในเทิร์นนี้เลย ระบบการเล่นแบบนี้ จึงสร้างรูปแบบการเล่น และการตัดสินใจที่หลากหลายอย่างมาก ไม่ใช่แค่เราเล่นการ์ดในเทิร์นตัวเองแล้วจบๆ ไป เหมือนอย่างเกมการ์ดอื่นๆ
วิธีการชนะของเกมนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบในตอนนี้คือ
การ์ด Fiora
วิธีการเล่นหลักๆ ของเกมนั้นจะเป็นเกมที่วัดความสามารถของผู้เล่น ว่าจะตัดสินใจในการเล่นอย่างไร เพราะทุกการกระทำมีผลตามมาเสมอ จะยอมเสี่ยงลงยูนิตเพิ่ม เพื่อเพิ่มพลังให้กับกระดาน แล้วเปิดโอกาสให้ศัตรูได้ใช้การ์ดต่างๆ หรือลงยูนิตเก่งๆ หรือจะเล่นแบบไม่เสี่ยง ประกาศโจมตีทันที ไม่ให้ศัตรูได้มีโอกาสใช้การ์ดเวทย์ Slow โหดๆหรือลงยูนิตมาป้องกัน แต่ก็แลกมากับการที่เราจะไม่ได้ลงยูนิตมาสู้อย่างเต็มที่ ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของเพื่อนๆ
ไกด์ทั้งหมด (เรียงตามความนิยม)
ไกด์และดาต้าเบสเกมอื่นๆ
ความคิดเห็นของทุกคน